กระดาษทราย
เราจะเห็นได้ว่าในการทำงานด้านการผลิตนั้น เรามักจะหลีกเลี่ยงงานเพิ่มเติมที่สำคัญงานหนึ่งคือ การซ่อมและบำรุงรักษาไปไม่ได้ ถึงแม้ว่างานซ่อมและบำรุงรักษาไม่ใช่งานผลิตโดยตรง แต่งานซ่อมและบำรุงรักษาก็มีส่วนช่วยให้การผลิตและการบริการขององค์กรนั้นๆให้เป็นไปอย่างราบรื่นตามแผนการผลิตที่วางไว้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกปัจจุบันที่การผลิตและการบริการจำเป็นที่จะต้องอาศัยอุปกรณ์และเครื่องจักรมากขึ้น การที่เครื่องจักรนั้นเกิดการขัดข้องขึ้นมากะทันหัน หรือไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ นั้นจะทำให้มีผลกระทบโดยตรงต่อประสิทธิภาพการผลิตและการบริการนั้นๆ ในวันนี้เราจึงจะมาทำความรู้จักกับอุปกรณ์ตัวหนึ่งที่จะเข้ามามีส่วนช่วยในงานด้านการซ่อมบำรุงนั้นคือ กระดาษทราย(Sandpaper)
กระดาษทราย คือกระดาษรูปแบบหนึ่งซึ่งมีสารขัดถูติดหรือเคลือบอยู่บนหน้าของกระดาษ
ใช้สำหรับขัดพื้นผิวของวัสดุอื่นเพื่อให้วัสดุนั้นเรียบ หรือขัดให้ชั้นพื้นผิวเก่าหลุดออก หรือบางครั้งอาจทำให้พื้นผิวขรุขระมากขึ้น เพื่อเตรียมการติดด้วยกาว เป็นต้น
ประวัติความเป็นมาของกระดาษทราย
กระดาษทรายเริ่มมีใช้ครั้งแรกในประเทศจีนตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่
13 กระดาษทรายในยุคนั้นทำจากเปลือกหอยบดละเอียด เมล็ดพืช และทราย ติดไว้บนหนังสัตว์ด้วยยางธรรมชาติ บางครั้งมีการใช้ผิวของปลาฉลามแทนกระดาษทราย
เดิมกระดาษทรายรู้จักกันในชื่อ กระดาษแก้ว เนื่องจากใช้กากของแก้วเป็นส่วนประกอบ (มิใช่กระดาษแก้วในปัจจุบัน) เกล็ดหยาบบนฟอสซิลของปลาซีลาแคนท์ (Coelacanth)
ซึ่งเป็นปลาดึกดำบรรพ์ที่เกือบจะสูญพันธุ์ เคยถูกใช้เป็นกระดาษทรายโดยชนพื้นเมืองในประเทศคอโมโรส
กระดาษทรายถูกผลิตขึ้นด้วยเครื่องจักรเป็นครั้งแรก
โดยบริษัทของจอห์น โอคีย์ (John
Oakey) ในลอนดอนเมื่อ พ.ศ. 2376 (ค.ศ. 1833) ซึ่งได้พัฒนาเทคนิคและกระบวนการยึดติดของสารขัดถูสำหรับการผลิตในปริมาณมาก
ส่วนกระบวนการผลิตกระดาษทรายด้วยเครื่องจักร
ได้รับการจดสิทธิบัตรในสหรัฐอเมริกาเมื่อ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2377 (ค.ศ. 1834) โดยไอแซก ฟิสเชอร์ จูเนียร์ (Isaac
Fischer Jr.) จากเมืองสปริงฟิลด์ รัฐเวอร์มอนต์
วัสดุที่ใช้ทำกระดาษทราย
1. วัสดุและคุณลักษณะ
อะลูมิเนียมออกไซด์ (ALUMINUM OXIDE): อะลูมิเนียมออกไซด์ (หรือผลิตภัณฑ์ฟูสด์อะลูมินา ใช้สัญลักษณ์ AA,A
เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำขึ้นจากบอกไซด์เป็นวัตถุดิบ
เป็นผลิตภัณฑ์ขัดถูที่แข็งที่สุด คมที่สุด
และเหนียวทนทานที่สุดในการใช้งานโดยทั่วไป คุณลักษณะที่สำคัญที่สุดอยู่ในความเหนียวที่เยี่ยมยอดที่สุดและได้ถูกใช้งานกันอย่างกว้างขวางในงานขัดผิวโลหะทั้งหมด
และรวมถึงไม้ พลาสติก ฯลฯ ในรูปแบบของกระดาษทรายและผ้าขัด อะลูมินาขาว
(สัญลักษณ์ผลิตภัณฑ์ WA) มีความบริสุทธิ์สูงกว่าผลิตภัณฑ์ขัดถูข้างต้น
และแข็งกว่า แต่มีความเหนียวทนทานน้อยกว่าเม็ดอะลูมิเนียมออกไซด์ปกติข้างต้น
ซิลิกอนคาร์ไบด์ (SILICON CARBIDEE) : ซิลิกอนคาร์ไบด์ (สัญลักษณ์ผลิตภัณฑ์ CC,GC) ทำขึ้นจากทรายซิลิกาเสียส่วนใหญ่
แล้วถูกเผาโดยความร้อนปริมาณมหาสาลจากการอาร์ตด้วยไฟฟ้าแรงสูงมันมีความแข็งกว่าอย่างมากและขอบที่เกิดจากการตัดของมันก็คมกว่าอะลูมิเนียมออกไซด์
แต่ค่อนข้างจะเปราะและไม่เหนียวเท่าอะลูมิเนียมออกไซด์
มักจะถูกใช้เพื่อการขัดโลหะมากกว่าที่จะถูกใช้ในการทำงานไม้ การทำผิวพื้น ฯลฯ
การ์เน็ท (GARNET) : (สัญลักษณ์ผลิตภัณฑ์
G) เป็นผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากแร่ธรรมชาติ และถูกใช้ในวงการเพชรพลอย
แต่การใช้งานหลักๆคือผลิตภัณฑ์ขัดถูเคลือบ
การ์เน็ทชนิดที่ถูกต้องเมื่อถูกบดและแบ่งประเภทจะมีความคมกว่าฟลินท์มากและแข็งกว่ามากด้วย
ดังนั้นมันจะตัดได้เร็วกว่าและสะอาดกว่า และจะทำงานได้ปริมาณมากกว่าฟลินท์
การ์เน็ท ถูกใช้งานโดยทั่วไปกับการทำงานไม้
2. วัสดุรองหลัง (BACKINGS)
โดยทั่วไปวัสดุรองหลังจะเป็นกระดาษ
หรือผ้า หรือไฟเบอร์
กระดาษรองหลัง
กระดาษอะลูมิเนียมออกไซด์และซิลิกอนคาร์ไบด์ ถูกหุ้มอยู่บนกระดาษเยื่อไม้
คุณภาพสูง (กระดาษดราฟด์)
น้ำหนักของกระดาษถูกปรับให้เข้ากับขนาดของเม็ดขัดหรือให้เข้ากับงานพิเศษซึ่งถูกออกแบบมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
น้ำหนักของกระดาษรองหลังที่ใช้ในสินค้าทางเทคนิค (ซิลิกอนคาร์ไบด์
อะลูมิเนียมออกไซด์ และการ์เน็ท) ถูกอ้างถึงเป็นน้ำหนัก "A" "C"
"D" และ "E"
ผ้ารองหลัง
ผ้าสองชนิดที่ใช้กันคือ "ยีนส์" (วัสดุรองหลัง น้ำหนักเบา ยืดหยุ่น
"J"
และ "เจาะ" (วัสดุรองหลังหนัก "X")
3. สารเคลือบ (COATINGS)
ประเภทของงานที่แตกต่างกัน
และประเภทของผลิตภัณฑ์ที่จะถูกขัดแตกต่างกัน
ต้องการการเคลือบจากโครงสร้างที่แตกต่างกัน
มีอยู่สองวิธีในการติดเม็ดเข้ากับวัสดุรองหลังต่างๆซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่า
เคลือบปิดและเคลือบเปิด
เคลือบปิด (CLOSE COAT) หมายความว่าพื้นผิวจะถูกปกคลุมอย่างหนาแน่นด้วยเม็ดที่มากที่สุดที่วัสดุขัดถูจะสามารถยึดไว้ได้
กระดาษทราย "เคลือบปิด" ถูกใช้ในการขัดโลหะแข็งและวัสดุทุกชนิด
เคลือบเปิด (OPEN COAT) หมายความว่าเม็ดจะถูกติดอย่างเรียบๆแต่เปิดสู่พื้นผิว
ดังนั้นโดยการมองไปที่พื้นผิวของกระดาษทราย "เคลือบเปิด"
เราเห็นวัสดุขัดถูมากเท่าๆกับเม็ด วัตถุประสงค์ของการ "เคลือบเปิด"
คือเพื่อจัดหาพื้นที่เปล่าหรือเปิดระหว่างเม็ดขัดถู
ซึ่งในเม็ดจะมีความสามารถในการตัดอยู่จนกระทั่งจำนวนของเม็ดจะลดลง ดังนั้น
"การเคลือบเปิด" จะไม่อุดตันหรือฝังตัวเหมือนกับการ
"เคลือบเปิด"
4. สารยึดเกาะ (BONDS)
สำหรับผลิตภัณฑ์ขัดถูเคลือบ
(กระดาษทรายและผ้าทราย)
ทั้งกาวหรือเรซิ่นสังเคราะห์ถูกใช้ให้เป็นการยึดเกาะหรือผลิตภัณฑ์ขัดถูตามคุณสมบัติที่สัมพันธ์กัน
เพื่อผูกเม็ดทรายเข้ากับกระดาษ ผ้า ไฟเบอร์
และวัสดุรองหลังผสมแต่ละตัวก็มีบทบาทที่สำคัญในอุตสาหกรรมขัดถูเคลือบ บางชิ้นถูกติดกับกาวเป็นพิเศษ
ส่วนชิ้นอื่นๆติดกับส่วนผสมของกาวและเรซิ่น (เรซิ่นอยู่เหนือกาว)
ส่วนชิ้นอื่นๆก็ยังคงติดอยู่กับเรซิ่นเป็นพิเศษ
กาว (GLUE) นี่เป็นกาวจากสัตว์ที่ผ่านกระบวนการพิเศษซึ่งมีธรรมชาติในการกันน้ำได้น้อยกว่าเรซิ่นจะถูกใช้ในที่ซึ่งต้องการผลิตภัณฑ์ขัดถูเคลือบที่ยืดหยุ่น
ผลิตภัณฑ์ขัดถูเคลือบ ฟลินท์และการ์เน็ทส่วนใหญ่มาจากการยึดเกาะ
เรซิ่น (RESIN) โดยทั่วไปจะถูกกล่าวว่าเป็นเรซิ่นสังเคราะห์ส่วนใหญ่จากกลุ่มฟินอลิคเมลามีน
โพลีเอสเตอร์ อีพ็อกซี่ พวกนี้มีคุณสมบัติในด้านความแข็งที่สูงกว่า กันน้ำดีกว่า และยืดหยุ่นที่ดีกว่า
ซึ่งถูกใช้กันอย่างกว้างขวางที่สุดในผลิตภัณฑ์ขัดถู
ชนิดของกระดาษทราย
การเลือกกระดาษทรายเพื่อให้เหมาะสม
หรือเรียกว่าถูกประเภทกับงานขัดประเภทต่างๆ เช่น งานขัดไม้ งานขัดเหล็ก งานขัดสีรถยนต์ เป็นปัจจัยที่สำคัญต่ออายุการใช้งานของกระดาษทราย เช่น กระดาษทรายบางรุ่น มีการเคลือบสาร
เพื่อป้องกันสีที่ขัดออกมาติดที่หน้าของกระดาษ
เพราะสีที่ติดบนหน้ากระดาษทรายนั้นเป็นสาเหตุทำให้อายุการใช้งานลดต่ำลง
เนื่องจากความร้อนสะสมบนเนื้อทราย จึงเหมาะกับงานขัดสีรถยนต์ บางรุ่นมีจำนวนเนื้อทรายเยอะกว่ารุ่นอื่น เพื่อให้เพื่อเพิ่มแรง
และกำลังในการขัด จึงเหมาะกับงานขัดเหล็ก หรืองานขัดครีบหนาๆ
บางรุ่นเนื่องกระดาษมีคุณสมบัติกันน้ำ
จึงสามารถนำมาใช้ในงานขัดน้ำได้ บางลักษณะงานเราไม่สามารถที่จะใช้น้ำในการขัดได้
ทั้งที่เป็นงานที่ต้องการความละเอียด เราจึงควรเลือก กระดาษทราย ที่มีการเคลือบสาร
Zinc Stearate (เกลือ) เพื่อลดแรงขัดที่กระดาษทราย
กระทำต่อชิ้นงานให้น้อยลง ส่งผลให้ ผิวขัดนั้นไม่เป็นรอยขนแมว โดยกระดาษทรายนั้นเราแบ่งเป็น
2 ชนิด
1. กระดาษทรายขัดแห้ง ใช้สำหรับขัดธรรมดา
1.1
กระดาษทรายขัดไม้
มีลักษณะเป็นแผ่นสีน้ำตาลเป็นกระดาษผิวหน้า ขรุขระ คม เม็ดเล็ก โตตามขนาดเบอร์ เช่น
เบอร์ 0 ,1,2,3,4,5 เป็นต้น
เบอร์น้อยจะละเอียดเบอร์มากจะเม็ดทรายหยาบ
วิธีใช้ เบอร์ 0,1,2 ใช้ขัดไม่ให้เรียบ
เบอร์ 3,4,5 ขัดไม้หยาบๆ
การขัดให้ขัดตามเสี้ยนไม้อย่าขวางไม้
1.2
กระดาษทรายขัดโลหะ
มีลักษณะเป็นแผ่นสีดำหรือน้ำเงิน
พื้นทำด้วยผ้าหนา ผิวหน้า
เม็ดทรายหยาบ ขรุขระ มีความทนทานกว่าชนิดขัดไม้ เรียกตามเบอร์ เช่น ละเอียดและหยาบ
วิธีใช้
เบอร์ละเอียดใช้ขัดโลหะเนื้อละเอียดอ่อน เช่น เหล็ก ทองแดง ทองเหลือง อะลูมิเนียม
2. กระดาษทรายขัดเปียกหรือกระดาษทรายน้ำ เป็นกระดาทรายใช้สำหรับขัดผิวงานระหว่างตกแต่งผิว
ทาแซลแลค แลคเกอร์ และทาหรือพ่นสี มีลักษณะแผ่นกระดาษบาง เหนียว ผิวหน้าเม็ดทรายละเอียด สีดำ
ติดแน่นทนทานเมื่อถูกน้ำ ธรรมดา เม็ดทรายจะไม่หลุดล่อน ขนาดเรียกเป็นเบอร์ เช่น
180, 240, 360, เบอร์มากจะละเอียด เบอร์น้อยจะมีความหยาบ เช่น เบอร์ 180
จะหยาบกว่าเบอร์ 360 เป็นต้น
วิธีใช้
ใช้ขัดผิวพื้นงามพร้อมกับน้ำเสมอ ๆ ไม่ค่อยใช้ในการขัดแห้ง ๆ ที่ไม่ใช่น้ำ
นอกจากนั้น
ลักษณะรูปร่างของกระดาษทรายก็เป็นสิ่งสำคัญที่เราควรพิจารณา
เพื่อให้สามารถตอบโจทย์งานของเราได้ดีที่สุด เช่น
กระดาษทรายกลม
เป็นกระดาษทรายที่ใช้กับเครื่องขัดลม และเครื่องขัดกระดาษทรายแบบไฟฟ้า ไม่เหมาะกับงานขัดด้วยมือ
กระดาษทรายม้วน
เหมาะสำหรับนำไปฉีกใช้ หรือแบ่งใช้ สามารถใช้ได้กับงานที่เป็น งาน D.I.Y.จนกระทั้งงาน งาน line การผลิตขนาดใหญ่ เป็นต้น
ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่า
การเลือกกระดาษทรายมีอะไรมากกว่า ที่เราคิด !! เราควรเลือกกระดาษทรายให้ตรงตามความต้องการของงานขัดของเรา
เเหล่งที่มาของข้อมูล
เเหล่งที่มาของข้อมูล
http://www.acaser.eng.psu.ac.th/klangduen/Domino/Maintenance/maintenance%201.htm#ความหมายของการบำรุงรักษา
http://www.payarad.com/articles/42187799/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2.html
https://www.homepro.co.th/product/82186
http://smartcost.co.th/product/abrasive/sandpaper.html
www.kr.ac.th/elearning/file.php?file=/55/p12.doc
http://www.srithaihardware.com/knowledge_detail.php?d=23
http://www.okaasia.com/engineer/index.php/blog/sand-paper/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น